ต้องบอกว่าทะลุเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มแบบเหนือความคาดหมายเล็กๆเหมือนกัน สำหรับทางด้านของ โครเอเชีย เมื่อเป็นฝ่ายพลิกรัวแซงสองประตูเอาชนะกระทิงดุ สเปน ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 ในรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายของกลุ่มดี
ทั้งนี้ศึก ยูโร 2016 กลุ่มดีก่อนเกมนัดสุดท้ายกระทิงดุ สเปน ของกุนซือ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ถูกคาดหมายว่าจะได้เข้าป้ายเป็นที่หนึ่งของกลุ่ม จากการที่พวกเขามีอยู่หกแต้มจากชัยชนะในสองเกมแรก ขณะที่ โครเอเชีย นั้นมีสี่แต้มน่าจะได้เข้าป้ายในฐานะทีมอันดับสอง
อย่างไรก็ตามเมื่อเกมเริ่มต้นขึ้นเป็น กระทิงดุ ที่ออกสตาร์ทได้ดีกว่าตามคาดได้ประตูออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 7 จากกองหน้าตัวเก่ง อัลบาโร่ โมราต้า แต่ทว่ายังไม่ทันที่เกมในครึ่งเวลาแรกจะจบลงทาง โครเอเชีย ก็มาตามตีเสมอได้สำเร็จเป็น 1-1 จาก นิโกล่า คารินิค นาทีที่ 45 และจบครึ่งเวลาแรกไปด้วยผลบอล 1-1
ครึ่งเวลาหลังกระทิงพลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเมื่อ เซร์คิโอ รามอส ซัดจุดโทษพลาดในนาทีที่ 72 ก่อนที่จะตามด้วยการถูก โครเอเชีย ลงโทษแบบสุดเจ็บปวดด้วยการยิงพลิกขึ้นนำ 2-1 และกลายเป็นประตูชัยไปในที่สุดในนาทีที่ 87 จาก อิวาน เปริซิค
ส่งผลให้บทสรุปหลังเกมการแข่งขันของกลุ่มดีเป็น โครเอเชีย ที่คว้าแชมป์กลุ่มไปด้วยจำนวน 7 แต้ม สเปนหล่นลงมาเป็นรองแชมป์กลุ่มที่จำนวน 6 แต้ม อันดับที่สามเป็นตุรกีที่แซงเช็กขึ้นมาจากการเอาชนะเช็กได้ 2-0 ในเกมสุดท้าย และบ๊วยของกลุ่มอย่างเช็กนั้นมีเพียงแค่หนึ่งแต้ม
สำหรับเกมในรอบ 16 ทีมสุดท้ายนั้น สเปน ที่จบเป็นอันดับสองของกลุ่มดีจะต้องเข้าไปชนกับ อิตาลี ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งชาติยักษ์ใหญ่แห่งแวดวงลูกหนัง เนื่องจาก อิตาลี จบเป็นแชมป์กลุ่มอี
ส่วน โครเอเชีย นั้นจะได้ไขว้ไปเจอกับ โปรตุเกส ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมอันดับสามที่ดีที่สุด (มาจากกลุ่มเอฟ)