 |
1 – 3 |  |
ต้องบอกว่าร้อนแรงจริงๆสำหรับฟอร์มของทีมจิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ ในซีซั่นนี้หลังแสดงผลงานออกมาให้ได้เห็นกันแล้วว่าแม้กระทั่งกับบิ๊กทีมพวกเขาก็สามารถจัดการได้ชนิดที่ว่าไม่เกรงกลัวหน้าไหนเลย เมื่อเป็นฝ่ายบุกไปไล่ยำเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ ด้วยผลบอลถึง 3-1 หลังจากที่สัปดาห์ก่อนเพิ่งอัดหงส์แดง ลิเวอร์พูลไป 2-0 นับเป็นการเก็บหกคะแนนเต็มจากทีมที่หลายคนมองว่าแค่จะเก็บแต้มเดียวก็เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาแล้ว
ทั้งนี้เกมดังกล่าว เลสเตอร์ ซิตี้ ของกุนซือ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ได้ประตูขึ้นนำเจ้าบ้าน 1-0 ไปอย่างรวดเร็วในนาทีที่ 3 จาก โรเบิร์ต ฮูท และจบครึ่งเวลาแรกไปด้วยสกอร์นั้น
ครึ่งเวลาหลังเกมผ่านไปสามนาทีทีมจิ้งจอกมาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 จาก ริยาร์ด มาห์เรซ ก่อนที่นาที 60 จะเป็น โรเบิร์ต ฮูท คนเดิมกลับมาเบิ้ลลูกสองของตัวเองในเกมนี้และเป็นลูกนำห่าง 3-0 ให้ทีมเยือน
ด้านเจ้าบ้านเรือใบสีฟ้ามาได้ประตูตีไข่แตกนาทีที่ 87 จาก เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน อันดับในตารางคะแนนหลังเกมการแข่งขัน เลสเตอร์ ซิตี้ รั้งจ่าฝูงเหนียวแน่นด้วยจำนวน 53 แต้มจาก 25 เกมผลต่างประตูได้เสีย 20 มากกว่าอันดับสองและสามอย่าง ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส, อาร์เซน่อล ตามลำดับอยู่ถึง 5 แต้ม และมากกว่าอันดับสี่แมนฯซิตี้อยู่ 6 แต้ม
ขณะที่ผลการแข่งขันคู่อื่นที่น่าสนใจ ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำผลบอลได้เพียงเสมอกับแมวดำ ซันเดอร์แลนด์ ไป 2-2 ทั้งๆที่ยิงนำไปได้ก่อนถึง 2-0
เชลซี ที่เปิดเดอะบริดจ์ทำศึกบิ๊กแมทพบ แมนฯยูไนเต็ด จบลงด้วยการเสมอกันไป 1-1 ทีมเยือน แมนฯยูไนเต็ด ได้ประตูนำ 1-0 ก่อนจากเจสซี่ย์ ลินการ์ด นาทีที่ 61 เจ้าบ้านมาตามตีเสมอได้ในนาทีสุดท้ายจากดีเอโก้ คอสต้า
ด้าน อาร์เซน่อล บุกไปเอาชนะ เอฟซี บอร์นมัธ ได้แบบสบายๆด้วยผลบอล 2-0 ได้ประตูจากเมซุต โอซิล นาทีที่ 23 และอ็อกเลต เชมเบอร์เลน นาทีที่ 24
