ได้บทสรุปกันไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศคู่บิ๊กแมตช์ระหว่างสองทีมยักษ์ใหญ่แห่งลีกแดนผู้ดี อังกฤษ โดยเป็นทางด้านของหงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่บุกไปย้ำแค้นยัดเหยียดความปราชัยให้กับเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ ถึงถิ่นเอติฮัตสเตเดี้ยมด้วยผลบอล 2-1 ในเกมเลกสองค่ำคืนวันอังคารที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา ทำให้ผลสกอร์รวมสองเกมหงส์แดงเอาชนะ ตีตั๋วเข้าสู่รอบรองชนะเลิศต่อไปด้วยผลบอลท่วมท้น 5-1
ทั้งนี้เกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ เลกสองที่ เอติฮัตสเตเดี้ยม ถือเป็นเกมที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากแฟนบอลทั่วโลก หลังเกมเลกแรกหงส์แดงเป็นฝ่ายทำเซอร์ไพร์ส เปิดรังแอนฟิลด์ถล่มเอาชนะทีมเต็งแชมป์รายการนี้มาก่อน 3-0
ทำให้เจ้าถิ่นลงเล่นด้วยสถานการณ์ที่ต้องเดินหน้าบุกทวงประตูคืนให้ได้สามประตูเป็นอย่างน้อย ขณะที่ทีมเยือนก็ลงสนามด้วยสถานการณ์ที่กดดันเช่นกัน เมื่อต้องระวังเกมรุกอันจัดจ้านของทีมเจ้าบ้านชนิดทุกฝีก้าวเลยทีเดียว
และเมื่อเกมเริ่มคิกออฟขึ้นก็ถือเป็นอะไรที่คุ้มค่าสำหรับแฟนๆที่รอชมเกม เมื่อทีมเจ้าบ้านได้ประตูปลุกความหวังออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 2 จาก กาเบรียล เชซุส ทำให้สถานการณ์หลังจากนั้นต้องการอีกเพียงสองประตูทุกอย่างก็จะกลับมาเท่ากัน
อย่างไรก็ตามเกมดำเนินไปถึงครึ่งเวลาหลัง นาที 56 กลับเป็นทีมเยือนที่มาซัดประตูตีเสมอ 1-1 ได้จาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กลายเป็นประตูที่แทบจะปิดความหวังแฟนบอลเจ้าบ้านไปโดยปริยาย
ไม่เพียงเท่านั้นลูกทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังทำได้ดีต่อเนื่อง มายิงประตูพลิกแซงนำ 2-1 ในนาที 77 จาก โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และกลายเป็นประตูชัยไปในที่สุด ทำให้ผลบอลรวมสองเกมเร้ดแมชชีนเอาชนะไปท่วมท้น 5-1 ได้ผ่านเข้าไปเล่นใน รอบรองชนะเลิศ รายการถ้วยบิ๊กเอียร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2007 ที่พวกเขาทะลุเข้าชิงกับ เอซี มิลาน