เรียกว่าเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่ยากลำบากทีเดียวสำหรับการสั่งปลด คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์ชาวอิตาเลี่ยนของทาง เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่มหาอำนาจลูกหนังเมืองเบียร์ เมื่อล่าสุดเป็นทาง คาร์ล ไฮน์ รุมเมนิกเก้ ประธานบริหาร เสือใต้ ที่ได้ออกมากล่าวเผยว่าเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับตนเองมากทีเดียวในการสั่งปลดนายใหญ่ชาวอิตาเลี่ยนก่อนจะดึงเอา จุ๊ปป์ ไฮย์เกส กุนซือมากประสบการณ์กลับมากุมบังเหียนทีมเป็นคำรบที่สี่ หลังอดีตนายใหญ่ ราชันชุดขาว พาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ในปีแรกที่ทำงานในถิ่นอัลลิอันซ์ อารีน่าแต่กลับพาทีมทำผลงานสุดบู่ในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ทั้งในลีกที่ทำได้เพียงไล่ตามทีมอย่าง เสือเหลือง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และในเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกที่พ่ายแพ้ให้กับ ปารีสแซงต์แชร์กแมง ยักษ์ใหญ่แห่งลีกเอิง ฝรั่งเศสไปเละเทะ
ทั้งนี้ อันเชล็อตติ เข้ารับตำแหน่งนายใหญ่ เสือใต้ ต่อจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่หมดสัญญาและโยกไปคุม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษเมื่อซัมเมอร์ปี 2016 ด้วยสัญญาสามปีและก็ทำผลงานสอบผ่านเมื่อสามารถพาทีมซิวแชมป์ลีกได้ตามมาตรฐานขั้นต่ำของสโมสร
อย่างไรก็ตามในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ เสือใต้ กลับมีผลงานบู่ ทั้งในลีกและแชมเปี้ยนส์ลีกดังกล่าวทำให้บอร์ดบริหารตัดสินใจแยกทางกับนายใหญ่ชาวอิตาเลี่ยนและเลือก จุ๊ปป์ ไฮย์เกส กุนซือมากประสบการณ์ที่เคยพาทีมประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่มาแล้วเข้ามาขัดตาทัพไปจนจบฤดูกาลนี้ ซึ่ง ไฮย์เกส ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเมื่อสามารถพา เสือใต้ กลับมาทำผลงานได้ดีขึ้นทันที กลับมาทวงตำแหน่งจ่าฝูงในตารางคะแนนบุนเดสลีกาได้ เช่นเดียวกับในแชมเปี้ยนส์ลีกก็กลับมาโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมอีกครั้ง
รุมเมนิกเก้ เผยถึงการตัดสินใจว่า “เราคุยกันหลังจบเกมที่ ปารีส (บุกพ่าย เปแอสเช 0-3) ใช่ การพูดคุยกันมันไม่ง่ายเลย มันมีความไม่พอใจเกิดขึ้น สุดท้ายแล้วเขาลุกขึ้นและบอกผมว่าเอาล่ะ คุณไม่ใช่เจ้านายผมแล้ว แต่คุณจะยังเป็นเพื่อนผมอยู่”