เรียกว่าว่ากันไปตามผลงานปัจจุบันสำหรับอนาคตของทางด้าน เคลาดิโอ รานิเอรี่ นายใหญ่มากแท็คติกชาวอิตาเลี่ยนที่ล่าสุดถูก จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกเด้งตกเก้าอี้แล้วหลังทำผลงานไม่เอาอ่าวในซีซั่นนี้และพาทีมสุ่มเสี่ยงต่อการหล่นชั้นกลับลงไปเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ขณะที่ในเวทียุโรปที่เหมือนจะทำได้ดีล่าสุดก็เป็นฝ่ายบุกไปพ่ายให้กับ เซบีญ่า ทีมแกร่งแห่งศึกลาลีกา สเปน ในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายทำให้ต้องลุ้นหนักในเกมเลกที่สอง
ทั้งนี้ รานิเอรี่ พา จิ้งจอก สร้างประวัติศาสตร์ที่โลกลูกหนังต้องจดจำเมื่อซีซั่นที่แล้วหลังพาทีมผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษได้อย่างสุดเซอร์ไพร์สโดยที่มีแข้ง จิ้งจอก หลายรายฉายแววเด่นจนกลายเป็นแข้งเนื้อหอมไปโดยปริยายด้วย อาทิเช่น เจมี่ วาร์ดี้ , ริยาด มาห์เรซ , เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่ถูกมองว่าแท็คติกการเล่นของนายใหญ่ชาวอิตาเลี่ยนมีส่วนช่วยเค้นศักยภาพที่แท้จริงของพวกเขาออกมา ทว่าในซีซั่นนี้ผลงานกลับแตกต่างกันชนิดหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว
โดยตั้งแต่ช่วงออกสตาร์ทก็ชัดเจนแล้วว่าผลงาน จิ้งจอก ไม่ดีพอที่จะลุ้นเบียดแย่งแชมป์กับบรรดาบิ๊กทีมเหมือนซีซั่นก่อน กระนั้นก็ไม่ได้มีใครคาดการณ์ถึงขนาดว่าพวกเขาต้องดิ้นรนหนีการตกชั้น เนื่องจากแข้งตัวหลักหลายรายที่พาทีมซิวแชมป์ได้ก็ยังอยู่กับทีม แต่ผลงานนับตั้งแต่เข้าสู่ศักราชใหม่กลับสาละวันเตี้ยลงเรื่อยๆจนตอนนี้กลายเป็นหนึ่งในทีมที่ต้องดินรนหนีการตกชั้นไปเรียบร้อยแล้ว
จากเหตุนี้องทำให้กลุ่มผู้บริหารสโมสร เลสเตอร์ ซึ่งเป็นชาวไทยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตัดสินใจเปลี่ยนแปลง แถลงแยกทางกับนายใหญ่ชาวอิตาเลี่ยนของสโมสรระบุว่า เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ตัดสินใจยุติเส้นทางที่มีร่วมกับ เคลาดิโอ รานิเอรี่ แล้ว เราเซ็นสัญญากับเขาเมื่อซัมเมอร์ปี 2015 และเขาพาทีมประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ คว้าแชมป์เมื่อซีซั่นที่แล้ว ดังนั้นเขาจะเป็นหนึ่งในกุนซือที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของเราแน่นอน แต่ผลงานในซีซั่นนี้ที่ทีมกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการตกชั้นทำให้บอร์ดบริหารจำเป็นต้องตัดสินใจเปลี่ยนแปลงเพื่อประโยชน์สูงสุดของสโมสร
