หวิดร่วงตกรอบไปเหมือนกันงานนี้สำหรับทางด้านของ จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ ในศึกฟุตบอลถ้วยเอฟเอคัพ รอบที่สี่แม้ว่าจะได้ลงเล่นพบกับทีมต่างดิวิชั่นและก่อนเกมถูกมองน่าจะเป็นฝ่ายบุกไปกำชัยพร้อมตีตั๋วเข้าสู่รอบห้าต่อไปได้ก็ตาม
ทั้งนี้เกมเอฟเอ คัพ รอบสี่ ค่ำคืนวันศุกร์ที่ 27 มกราคม มีคิกออฟกันเพียงคู่เดียวที่สนามไพรด์ ปาร์ก แกะเขาเหล็ก ดาบี้ เค้านท์ตี้ ทีมจากลีกรอง เดอะแชมเปี้ยนชิพเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทีมแชมป์เก่าลีกสูงสุด จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ โดยเกมนี้กุนซือ เคลาดิโอ รานิเอรี่ จัดผู้เล่นชุดเต็มลงบู๊หวังเช็คบิลเข้ารอบห้าต่อไปให้จบในนัดเดียว นำมาโดยกองหน้าทีมชาติอังกฤษอย่าง เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าทีมชาติญี่ปุ่น ชินจิ โอกาซากิ กองกลางอย่าง แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ , อัลไบรตัน และผู้รักษาประตูจอมหนึบ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ลส์
อย่างไรก็ตามเมื่อเกมเริ่มขึ้นกลับเป็นเจ้าบ้าน แกะเขาเหล็ก ที่ทำได้ดีกว่า แม้ว่าสกอร์แรกที่เกิดขึ้นจะเป็นของทีมเยือนที่ได้ไปแบบมีโชคช่วยด้วยเมื่อทาง ดาร์เรน เบนท์ กองหน้าเจ้าบ้านทำเข้าประตูตัวเองไปในนาทีที่ 8 ก่อนที่เจ้าตัวจะมาแก้ตัวยิงตีเสมอ 1-1 ให้ทีมได้สำเร็จในนาทีที่ 21 จากนั้นอีกราวยี่สิบนาทีถัดมาเป็น บรีย์สัน ที่มายิงแซงนำให้เจ้าบ้านเป็น 2-1 และเกมก็ดำเนินไปด้วยสกอร์นี้จนถึงช่วงท้ายเกมแบบทำท่าว่าจะจบเป็นชัยชนะอันเซอร์ไพร์สของเจ้าบ้านอยู่แล้ว ทว่าเป็น เวส มอร์แกน กองหลังทีมเยือนที่มาโขกโกงตายให้ทีมตีเสมอเป็น 2-2 ทำให้ทั้งสองทีมต้องไปเตะนัดรีเพลย์กันอีกทีในสัปดาห์หน้าที่คิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยม บ้านของ จิ้งจอก
สำหรับผลงานของ แกะเขาเหล็ก ดาบี้ เค้านท์ตี้ ในเดอะแชมเปี้ยนชิพซีซั่นนี้ยังถือว่ามีลุ้นที่จะได้ติดอันดับเล่นเพย์ออฟลุ้นเลื่อนชั้นขึ้นลีกสูงสุดซีซั่นหน้า โดยพวกเขารั้งอยู่อันดับที่ 7 ของตารางคะแนน ตามหลัง เชฟฟิลด์ เวสเดย์ ทีมอันดับสุดท้ายโซนเพลย์ออฟเพียงสองแต้มเท่านั้น
