เรียกว่าไม่ซีเรียสอะไรทั้งนั้นแม้ว่าจู่ๆจะต้องลงไปนั่งเป็นสำรองทั้งๆที่มีฐานะเป็นผู้นำทีม สำหรับทางด้านของ เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าเจ้าของปลอกแขนกัปตันทีม ปีศาจแดง ตัวจริง ซึ่งช่วงหลังถูก โจเซ่ มูริญโญ่ นายใหญ่จอมเครียด ดร็อปเป็นสำรองในเกมลีกติดต่อกันสองแมทแล้ว
ทั้งนี้ รูนี่ย์ กับ ปีศาจแดง ในช่วงหลังค่อนข้างมีปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่นอันเป็นผลมาจากสภาพร่างกายที่เริ่มโรยราลงนับตั้งแต่ยุคของกุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล แล้ว และจากฟอร์มการเล่นอันย่ำแย่ในเกมที่ ปีศาจแดง พ่ายให้กับ วัตฟอร์ด ไป 1-3 ก็ได้กลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้นายใหญ่ชาวโปรตุเกสตัดสินใจเปลี่ยนแปลงด้วยการดร็อปนักเตะเป็นสำรองตามคำเรียกร้องจากแฟนบอล ซึ่งก็เหมือนจะส่งผลดีให้ได้เห็นในทันทีด้วย เพราะในเกมลีกเกมแรกที่ มูริญโญ่ ไม่เลือกใช้บริการกองหน้าชาวผู้ดีรายนี้ ปีศาจแดง สามารถคว้าชัยชนะเหนือแชมป์เก่าด้วยสกอร์ที่สวยหรู 4-1 อย่างไรก็ตามฟอร์มของพวกเขาก็กลับมาแผ่วอีกครั้งในเกมลีกนัดล่าสุด เมื่อทำได้เพียงแค่เสมอกับทีม ช่างปั้นหม้อ สโต๊ค ซิตี้ ไป 1-1
รูนี่ย์ กล่าวเปิดใจถึงสถานะในทีมเวลานี้ของตนเองว่า “ผมยอมรับว่าผมเล่นได้แย่จริงๆในเกมที่เราเจอกับ วัตฟอร์ด ดังนั้นผมจึงคิดไว้อยู่แล้วว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยถ้าหลังจากเกมวันนั้นผู้จัดการทีมจะไม่ให้ผมลงเล่น ผมเข้าใจกับสถานการณ์ดี เวลานี้มันเป็นงานของผมที่ต้องพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะกลับไปมีตำแหน่งในทีมอีกครั้ง และต้องคว้าโอกาสไว้ให้ได้เมื่อมันมาถึง พวกเรากลับมาในสภาพที่ไม่ดีนัก (หลังจากพักเบรกทีมชาติ ก่อนที่จะมาฟอร์มแย่แพ้สามเกมติดในทุกรายการจนเจ้าตัวโดนดร็อป) มันแตกต่างจากตอนออกสตาร์ท แต่ก็นั่นแหละความรับผิดชอบมันอยู่ที่ผมเยอะมาก นั่นคือสิ่งที่มันเป็นมาตลอดชีวิตนักฟุตบอลของผม กระนั้นพวกเราก็เป็นทีมฟุตบอล ดังนั้นการทำงานเป็นทีมจึงสำคัญ ฉะนั้นการที่ผมเป็นสำรองจึงไม่สำคัญเท่ากับเรื่องชัยชนะของทีม”