ถ้าหากได้ยินเสียงนกหวีดเป็นสัญญานจากผู้ตัดสินก็อาจช่วยทีมเซฟประตูไม่เสียสกอร์ในครึ่งเวลาแรกให้กับ สิงโตน้ำเงินคราม ก็เป็นได้สำหรับทางด้านของ ซิมง มิโญเล่ต์ นายด่านจอมหนึบทีมชาติเบลเยี่ยมของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่แห่งเมอร์ซี่ไซด์ อังกฤษ เมื่อล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมากล่าวเผยเองว่าจังหวะฟริคิกขึ้นนำ 1-0 ของ ดาวิด ลุยซ์ กองหลังทีมเยือนในครึ่งเวลาแรกนาทีที่ 24 ตนเองไม่ได้ยินเสียงเป่านกหวีดเป็นสัญญานให้เริ่มเล่นจากผู้ตัดสินเลยทำให้เซฟประตูดังกล่าวช่วยทีม
ทั้งนี้เกมนี้ ซิมง มิโญเล่ต์ ถือเป็นหนึ่งในฮีโร่ของทีมเจ้าบ้าน เมื่อสามารถเซฟจุดโทษของ ดีเอโก้ คอสต้า ในช่วงท้ายเกมช่วยให้ทีมรอดพ้นการเสียประตู 2-1 ได้ และทำให้ทีมสามารถแบ่งแต้มจากทีมจ่าฝูงได้สำเร็จที่สกอร์ 1-1
อย่างไรก็ตามในครึ่งเวลาแรกจังหวะเสียประตู 1-0 เป็นจังหวะการเสียฟาล์วแบบงงๆของทีมเจ้าบ้าน เมื่อผู้ตัดสินเป่าให้เป็นฟรีคิกกับทีมเยือนท่ามกลางความไม่เห็นด้วยกับการตัดสินของผู้เล่นทีมเจ้าบ้านและก็กลายเป็นจังหวะสืบเนื่องให้เจ้าบ้านเสียประตูไปแบบงงๆเช่นกัน เพราะยังไม่ทันที่นายด่านทีมชาติเบลเยี่ยมจะเตรียมขยับตัวเพื่อเซฟบอล ดาวิด ลุยซ์ กองหลังทีมเยือนก็ซัดเข้าไปตุงตาข่ายแล้ว
โดยหลังจบเกมอดีตจอมหนึบทีม แมวดำ กล่าวเปิดเผยว่าตนเองไม่ได้ยินเสียงเป่านกหวีดจากผู้ตัดสินเลยจึงพลาดโอกาสช่วยทีมป้องกันประตูเอาไว้ “ใช่ นั่นคือฟรีคิกที่ดี มันเป็นลูกทีมที่สวยของเขา แต่เขายิงมันเร็วมาก ผมไม่ได้ยินเสียงนกหวีดเลย มันจึงยากมากที่ผมจะเริ่มขยับไปตัวไปป้องกัน แน่นอนมันน่าผิดหวัง เพราะอย่างน้อยคุณย่อมต้องการโอกาสในการช่วยทีมป้องกันประตูเอาไว้บ้าง แต่ผมไม่ได้รับมันในจังหวะนั้น”
สำหรับ มิโญเล่ต์ ในช่วงหลังถือว่าทำผลงานการเซฟให้ทีม หงส์แดง ได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียว หลังก่อนหน้านี้ต้องเจอช่วงเวลาที่ลำบากอยู่ช่วงนึงเมื่อทาง เจอร์เก้น คล็อปป์ เลือกมอบโอกาสให้กับทาง ลอริส คาริอุส นายด่านดาวรุ่งชาวเยอรมันขึ้นเป็นมือหนึ่งของทีมแทน ก่อนที่อดีตนายด่าน ไมนซ์05 จะโชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังและทำให้นักเตะกลับมาได้รับโอกาสอีกครั้ง