ต้องบอกว่าล้างแค้นได้สำเร็จชนิดที่ว่าได้ใจแฟนบอลเต็มๆเลย สำหรับ เรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ ยักษ์ใหญ่เงินถังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อเกมแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดล่าสุดสามารถเป็นฝ่ายเปิดรังเอติฮัต สเตเดี้ยมไล่อัด อาซูลกราน่า บาร์เซโลน่า จากสเปนไป 3-1 หลังเกมที่แล้วเป็นฝ่ายบุกไปพ่ายที่คัมป์นูมาด้วยสกอร์ 0-4 ทั้งนี้เกมแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่น 2016-2017 ดำเนินมาถึงนัดที่สี่แล้ว โดยกลุ่มที่ลงแข่งขันก่อนในค่ำคืนวันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน ประกอบด้วยกลุ่ม A B C และ D
ไฮไลท์สำคัญก็เป็นการแข่งขันในกลุ่ม C คู่ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับ บาร์เซโลน่า เนื่องจากดังที่กล่าวข้างต้นนัดที่แล้ว ซิตี้ เป็นฝ่ายบุกไปพ่ายให้กับ บาร์ซ่า มาเละเทะและด้วยจำนวนแต้ม สถานการณ์ในกลุ่มค่อนข้างกดดันพวกเขาในเกมนี้ กล่าวคือหากพลาดท่าพ่ายอีกหรือเก็บชัยชนะไม่ได้ก็สุ่มเสี่ยงที่จะพลาดโอกาสทะลุเข้าสู่รอบน็อกเอ้าท์ต่อไป อย่างไรก็ตามเมื่อเกมคิกออฟขึ้นลูกทีมของ โจเซป กวาร์ดิโอล่า ทำได้ดีกว่าที่หลายคนคาดกันไว้ แม้ว่าจะเป็นฝ่ายครองบอลครองเกมได้น้อยกว่าและเสียประตูไปก่อนก็ตาม
โดยทีมเยือนได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 21 จาก ลิโอเนล เมสซี่ ก่อนที่จะเป็น อิลคาย กุนโดกัน ที่มาซัดตีเสมอให้เจ้าบ้านในนาทีที่ 39 และจบครึ่งเวลาแรกไปด้วยสกอร์นี้ ครึ่งเวลาหลังเจ้าบ้านมารัวยิงแซงสองประตูรวดเป็นประตูพลิกขึ้นนำ 2-1 จาก เควิน เดอ บรอยน์ และประตูตอกย้ำชัยชนะ 3-1 จาก อิลคาย กุนโดกัน ผู้ทำประตูแรกในนาทีที่ 74 สถิติที่เกิดขึ้นในเกมนี้ ทีมเยือนครองบอลได้มากกว่าที่ 59%-41% แต่เจ้าบ้าน ซิตี้ สร้างสรรค์โอกาสจบสกอร์ได้ดีกว่า โดยทำได้รวม 10 เข้ากรอบไป 4 ครั้ง ทีมเยือนทำได้ 5 ครั้ง เข้ากรอบเพียง 1 ครั้ง อันดับในตารางคะแนนกลุ่ม C หลังเกมการแข่งขัน บาร์เซโลน่า ยังคงรั้งจ่าฝูงต่อไปด้วยจำนวน 9 แต้ม แมนฯซิตี้ รั้งรองจ่าฝูงมี 7 แต้ม