เรียกว่าเป็นประสบการณ์อันเจ็บปวดที่สุดในอาชีพค้าแข้งแล้ว สำหรับทางด้านของ เวย์น รูนี่ย์ กัปตันทีม แมนฯยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษในช่วงนี้ที่ต้องหล่นไปเป็นสำรองให้กับทั้งสโมสรและทีมชาติดังกล่าว ทั้งๆที่ตลอดอาชีพค้าแข้งเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทั้ง ปีศาจแดง และ สิงโตคำราม และไม่เคยถูกดร็อปเป็นตัวสำรองหากมีสภาพร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์ ทั้งนี้อย่างที่ทราบกันว่า รูนี่ย์ ในช่วงออกสตาร์ทซีซั่นนี้ฟอร์มตกลงไปมากจนส่งผลกระทบต่อผลงานของ ปีศาจแดง ของกุนซือ โจเซ่ มูริญโญ่ และมีกระแสวิจารณ์เจ้าตัวในด้านลบตามมามากมายทั้งจากสื่อและแฟนบอลของทีม ปีศาจแดง เอง
จากเหตุนี้ทำให้นายใหญ่จอมเครียดตัดสินใจดร็อปนักเตะไปเป็นสำรองแล้วเลือกหันไปใช้บริการนักเตะดาวรุ่งอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เจสซี่ย์ ลินการ์ดแทน ซึ่งก็เหมือนจะได้ผลดีซะด้วย เมื่อฟอร์มของทีมกลับมากระเตื้องขึ้นอีกครั้งหลังจากการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามจากสถานะในทีม ปีศาจแดง ที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้สถานะในทีมชาติอังกฤษเปลี่ยนไปตามกล่าวข้างต้นด้วยเช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของนักเตะมากยิ่งขึ้นไปอีก โจเซ่ มูริญโญ่ ซึ่งยังไม่มีแพลนที่จะคืนสถานะตัวจริงให้กับนักเตะในเร็วๆนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมแดงเดือด พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดมันเดย์ไนท์นี้ที่ยังคงถูกคาดการณ์ว่าจะต้องนั่งเป็นสำรองต่อไป
กล่าวเผยถึงความรู้สึกของนักเตะผ่านสื่อว่า “แน่นอนผมคิดว่าผมได้ทำในสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดไปแล้ว และจากนี้มันก็ไม่มีอะไรที่จะทำให้เขารู้สึกไปมากกว่านี้อีกแล้ว ดังนั้นเรื่องราวหลังจากนี้มันก็เป็นเรื่องของการที่เขาจะต้องเรียกฟอร์ม คืนฟอร์มเก่งของตนเองกลับมา แล้วมันก็แน่นอนเช่นกันว่าสโมสรที่เหมาะสมที่สุดที่เขาจะกลับคืนสถานะของตนเองมันก็คือที่นี่แหละ ที่นี่เป็นดังบ้านของเขา คุณสามารถทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดได้แต่คุณทำให้ผมท้อแท้ไม่ได้ ผมคิดว่าเขาก็ไม่ต่างไปจากผม”
